12 ตุลาคม 2552
ขอระลึกถึงผู้บาดเจ็บล้มตายเมื่อ 7 ตุลาคม 2551 ด้วยความเคารพนับถือ
และขอแสดงความซาบซึ้งในจิตใจของผู้ตั้งมั่นชุมนุมโดยไม่หวั่นต่อระเบิดและกระสุนพิฆาต ที่น่าจะได้รับการสั่งการจากรัฐบาลชั่ว ในวันเวลาหลังจากนั้น
มันทำให้ชาติไทยอยู่รอดด้วยสัญญาณความกล้าหาญที่ประชาชนผู้ตื่นรู้ส่งออกมา
นักการเมืองผู้คิดขายชาติ คิดเอาประชาชนเป็นทาส และคิดล้มล้างการปกครอง ได้ทราบว่า ประชาชนผู้ตื่นรู้มีมากพอที่จะไม่ให้เขาทำเช่นนั้น
ประชาชนผู้ตื่นรู้ มีจำนวนมากพอที่จะไม่ปล่อยให้คนทั้งประเทศตกเป็นทาสนักการเมือง ไม่ว่าจะโกงการเลือกตั้งชนะกี่ครั้งก็ตาม
ฝรั่งเรียก Cycle of Instability
คือโกงการเลือกตั้งเข้าไปได้อีกก็ต้องชุมนุมกันอีก
การชุมนุมโดยไม่ต้องจ้าง ชุมนุมได้ยาวนาน ซึ่งการชุมนุมเชิงพาณิชย์ทำไม่ได้
ความยาวนานไม่ได้ทำไปเพื่อลงกินเนสส์บุ๊ค แต่เป็นเพราะกระบวนการยุติธรรมมีอุปสรรคและเชื่องช้า กว่าจะยุบพรรคได้ ผู้บริสุทธิ์ก็บาดเจ็บล้มตายกันเป็นจำนวนมาก
เปลี่ยนผู้บริหารประเทศใหม่ ไม่ได้อย่างที่หวังก็เป็นเรื่องธรรมดาของการฟื้นไข้ เป็นเรื่องที่ประชาชนต้องช่วยกันพัฒนาฝ่าขวากหนามกันต่อไป ไม่ใช่งอมืองอเท้าเอาแต่บ่นด่า
ในความยาวนานของการชุมนุมปกป้องประเทศชาตินั้น ส่วนหนึ่งดูแล้วน่าจะเป็นกลไกกำจัดคนชั่วด้วยกฎแห่งกรรม เพราะคนชั่วได้แสดงความชั่วอย่างชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ทุกสิ่งที่ทำ เป็นหลักฐานความชั่วเพิ่มที่ตามมัดตัว อะไรที่ไม่เคยเห็นชัดๆก็ได้เห็นชัดๆ ที่เคยแอบๆก็ออกมาโชว์ตัวออกหน้าออกตา คิดว่าชนะชัวร์เลยแสดงความชั่วไม่ติดเบรก พวกชั่วระดับปลาซิวก็โดนซิวเรียบร้อยไประดับหนึ่ง ส่วนพวกอภิมหาชั่วยังได้รับการแช่แข็งคดี เปิดโอกาสให้พยายามกบฏอีกสักทีสองที
ในความรู้สึกรับผิดชอบต่อชาติบ้านเมือง ในฐานะที่มีโอกาสทางการศึกษา การรับใช้แผ่นดินเกิดของดิฉัน จึงเป็นการนำความรู้ประสบการณ์มาใช้ให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติประชาชน การวิเคราะห์ข้อมูล สรุปผล และนำเสนอเป็นภาษาอังกฤษเพื่อให้เกิดการรับรู้ของกลุ่มเป้าหมายในระดับโลก เป็นสิ่งที่นำมาใช้เป็นหลัก
ระหว่างเหตุการณ์รัฐบาลกลุ่มทักษิณกระทำกับประชาชน ข้อมูลสด ภาพสด รวมทั้งสาระแวดล้อมทั้งในอดีตและที่เกิดขึ้นใหม่ ได้ถูกนำมาเขียนเป็นบทความส่งผู้นำโลกประมาณพันห้าร้อยคน ทุกครั้งที่เกิดความวิกฤติ ข้อมูลสด ภาพสด และบทสรุปวิเคราะห์ถูกส่งออกไป
ข้อมูลสด ภาพสด หมายถึงสิ่งที่เก็บจากเหตุการณ์แล้วนำเสนอทันที ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่ามีความน่าเชื่อถือกว่าข้อมูลและภาพที่ส่งหลังเหตุการณ์นานๆ
หนึ่งในบทความ ชื่อ “The New Weapon Called LIE”
หนึ่งในเหตุการณ์ที่ส่งไป คือการฝังความทรงจำให้กลุ่มผู้สนับสนุนทักษิณกระทำความผิดอาญามาตรา 107 โดยการแสดงละครก่อนโฟนอินที่รัชมังคลาฯ ซึ่งผู้มีหน้าที่จัดการในประเทศไทยพากันแสดงความมืดบอดในสติปัญญา ไม่รู้ว่ามันคืออะไร
หนึ่งในผู้รับสาระทั้งหมดนี้ คือ กลุ่มผู้บริหารสูงสุดรัฐบาลอังกฤษ กลุ่มผู้บริหารสูงสุดสหประชาชาติ และอัยการกับผู้พิพากษาสูงสุดศาลอาญาระหว่างชาติ
ในขณะที่หน่วยงานในไทย ไม่อินังขังขอบกับบทความ การติดต่อ การเตือน และการเน้นย้ำที่ดิฉันส่งไป ทั้งสามหน่วยงานระดับโลกตอบดิฉันทั้งหมด
ล่าสุด ได้รับอีเมลตอบจากศาลอาญาระหว่างชาติ
ก็แน่นอนว่า มันยังไม่เป็นคดี เนื่องจากเงื่อนไขที่ศาลอาญาระหว่างชาติถูกก่อตั้งขึ้นมา รับคดีจากไหนได้บ้างนั้นบังคับอยู่ ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ดิฉันไม่ทราบ
ศาลฯได้แจ้ง 3 เงื่อนไขที่เราอาจดำเนินตาม เพื่อนำเรื่องขึ้นเป็นคดี
ช่องทางหนึ่ง คือผ่านการเสนอของฝ่ายความมั่นคงสหประชาชาติ ซึ่งดิฉันได้ส่งข้อมูลไปให้เท่าๆกับที่ศาลอาญาระหว่างชาติได้รับ
ส่วนเงื่อนไขอื่นๆ ก็อาจผลักดันต่อไปได้เหมือนกัน
ประเด็นสำคัญอยู่ที่:
1. ศาลอาญาระหว่างชาติอยู่อีกฝั่งของโลก ได้เขียนตอบเรื่องโดยนับถือและอย่างสร้างสรรค์ ไม่มีสักนิดที่จะแสดงความไม่เชื่อถือหรือปิดกั้นหนทางให้ความยุติธรรม รวมทั้งมีการตอบกลับตั้งแต่ได้รับเอกสารและเมื่อพิจารณาเรื่องเสร็จอีกด้วย แม้ผู้ยื่นเรื่องจะเป็นบุคคลคนเดียวจากประเทศกำลังพัฒนาที่อยู่ห่างไกล ตรงกันข้ามกับพฤติกรรมของหน่วยงานยุติธรรมขั้นต้นของไทย
2. ศาลอาญาระหว่างชาติระบุยืนยันว่าจะเก็บเรื่องไว้ เมื่อไรที่เงื่อนไขพร้อมรับเข้าเป็นคดี ก็พร้อมรื้อฟื้นเรื่องนำไปเป็นคดีได้
3. ศาลอาญาระหว่างชาติแนะนำให้ใช้กลไกยุติธรรมอื่นๆทั้งของชาติและนานาชาติเป็นการตั้งต้น ซึ่งสำหรับระดับภายในประเทศดิฉันได้ทำอยู่แล้ว และหากไม่เป็นผล ก็จะเป็นหลักฐานว่ากระบวนการยุติธรรมของชาติไม่ยินดีรับ อันเป็นหนึ่งในเหตุผลที่อยู่ในเงื่อนไขที่ศาลอาญาระหว่างชาติจะพิจารณารับคดี
สิ่งที่ได้เกิดขึ้นอย่างแน่นอนก็คือ ข้อมูลและหลักฐานภาพการกระทำอาชญากรรมต่อประชาชนของกลุ่มทักษิณ เข้าไปเก็บรอรื้อฟื้นอยู่ในศาลอาญาระหว่างประเทศเรียบร้อยแล้ว โดยประชาชนธรรมดา
เป็นก้าวแรกของโปรเจ็คโกอินเตอร์ “จากอาชญากรไทยสู่อาชญากรโลก”
สิ่งนี้ให้ความมั่นใจในผลที่ต้องการอีกอย่างหนึ่งคือ ประวัติศาสตร์ไทยจะต้องเขียนอย่างถูกต้อง แม้วันใดกลุ่มทักษิณจะรวบอำนาจเบ็ดเสร็จได้ และเปลี่ยนประวัติศาสตร์สีดำเปื้อนเลือดในการกระทำของตนให้เป็นขาว แต่ข้อมูลประวัติศาสตร์แท้จริง ยังอยู่ในมือของผู้นำโลกพันกว่าคน
ให้โลกจารึกไว้ว่าผู้ปกครองประเทศคนใหม่ ได้เข้าสู่อำนาจด้วยการอภิมหาโกหก บนการฆ่าทำร้ายประชาชน ด้วยความร่วมมือของข้าราชการชั่ว ที่ถือทั้งอาวุธและอำนาจจากภาษีประชาชนหันเข้าคุกคามทำร้ายประชาชน และทำให้คนทั้งชาติกลายเป็นทาสทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว
แต่เราจะไม่ให้วันนั้นมีขึ้น
โปรเจ็คโกอินเตอร์ “จากอาชญากรไทยสู่อาชญากรโลก” จึงต้องมีเฟสต่อไป ซึ่งประชาชนคนไหนก็ทำได้ ไม่ต้องเฉพาะ ลักษณา กรณ์ศิลป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น